ทฤษฏีและแนวคิด ด้านการเงินการคลังสาธารณะ(Theory and concept of Fiscal and Public Finance)เป็นส่วนหนึ่งของการบรรยายหัวข้อ “ขอบข่ายและแนวคิดเชิงทฤษฏี รัฐประศาสนศาสตร์”
หัวข้อ การบรรยาย
Ø ความหมายของการคลังสาธารณะ
Ø บรรทัดฐานการบริหารงานคลัง
Ø กรณีตัวอย่าง บรรทัดฐานการคลัง
Ø หน้าที่ของรัฐ
Ø ในการจัดบริการสาธารณะ
Ø ในการสร้างความเท่าเทียมกันและความเป็นธรรมในสังคม
Ø ในการสนับสนุนเป้าหมายทางเศรษฐกิจ
Ø หลักการบริหารรายจ่ายภาครัฐ
Ø รายได้ของรัฐบาล
Ø หลักการจัดเก็บภาษีที่ดี
Ø คำถามท้ายหัวข้อการบรรยาย
การคลังสาธารณะ ความหมาย
บทบาทและหน้าที่ของรัฐในการกำหนดรายรับ-รายจ่าย ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของรัฐเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย การศึกษา
ใช้หลักการทั้ง Positivism Approach และ Normativism Approach
แนวคิด Â การบริหารงานคลัง
Ø ธรรมาภิบาล
Ø วินัยทางการคลัง
Ø ความโปร่งใส
Ø ความรับผิดชอบต่อสาธารณะ
Ø ประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร
ระดับ4แนวคิด
Ø ระดับสูงสุด Â ธรรมาภิบาล
Ø ระดับกลาง Â วินัยทางการคลัง
Ø ระดับล่างสุด หรือ ระดับปฏิบัติการ
Ä
หน้าที่และรายจ่ายของรัฐ
ธรรมาภิบาลหรือธรรมรัฐ
v รัฐที่ดีควรมีลักษณะความเป็น Participatory Democracy มากกว่า Authoritarian
v การเป็น Good Governance ในทางการคลัง และ ต้องได้รับการยินยอมจากประชาชนผู้เสียภาษี
วินัยทางการคลัง
Ø การรักษาดุลยภาพระหว่างรายได้กับรายจ่าย หรือดุลทางการคลังเอาไว้ได้
Ø ความได้รับความเชื่อถือในกระบวนการทางการคลังจากประชาชน ในด้านรายได้ รายจ่าย และการเงินการบัญชี
องค์ประกอบ È
วินัยทางการคลัง
ด้านรายได้
v มีระบบการประมาณการรายได้และการ จัดเก็บที่น่าเชื่อถือ
v ตัวเลขที่ประมาณการและตัวเลขจริงต้อง ใกล้เคียงกัน
v มีวิธีการและกระบวนการในการจัดเก็บ รายได้ที่มีประสิทธิภาพ
ด้านรายจ่าย
Ø ควบคุมการใช้จ่ายในกรอบของงบประมาณที่กำหนด
Ø มีการประมาณการรายจ่ายครอบคลุมทุกประเภท
Ø ต้องน่าเชื่อถือ
Ø การบริหาร การเบิกจ่าย การก่อหนี้ผูกพัน ต้องสอดคล้องกัน
ด้านการเงินการบัญชี
v ดูแลการรับ การจ่ายเงิน การก่อหนี้ผูกพัน
v ต้องมีการปฏิบัติตามระเบียบ กฎเกณฑ์ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
v ป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดการคอรัปชั่น
v ต้องดำเนินการด้วยความรับผิดชอบ โปร่งใส และตรวจสอบได้
เกณฑ์มาตรฐานการบริหารการคลังภาครัฐÄ
v กำหนดบทบาทและความรับผิดชอบขององค์กรภาครัฐให้ชัดเจน
v การเปิดเผยข้อมูลทางการคลังต่อสาธารณชน
v การมีระบบงบประมาณแบบเปิด
v การมีระบบการตรวจสอบโดยองค์กรอิสระจากภาคนอก
บทบาทและความรับผิดชอบขององค์กรภาครัฐ È
v ขอบเขตความรับผิดชอบในระบบเศรษฐกิจ สังคมต้องชัดเจน
v สาธารณชนมีความเข้าใจอย่างถูกต้อง
v ต้องเปิดเผย การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
v มีระเบียบวิธีการที่ชัดเจน ไม่เลือกปฏิบัติ
v จัดแบ่งภารกิจภายในภาครัฐบาล ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการให้ชัดเจน
v ต้องมีกลไก และขั้นตอนการประสานงานและการบริหารกิจกรรมทั้งในและนอกระบบงบประมาณ ที่ชัดเจน
v มีหลักกฎหมายและแบบแผนการเนินงานที่ชัดเจน
v ยึดหลักกฎหมายที่ครอบคลุม และดำเนินการโดยชอบ
v จัดเก็บภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าบริหารโดยมีกฎหมายรองรับ และเข้าใจง่าย
v เปิดโอกาสให้พนักงานรัฐใช้ดุลพินิจน้อยที่สุด
v มีจริยธรรมและวินัยของผู้ปฏิบัติงานในภาครัฐชัดเจน และเผยแพร่ให้สาธารณชนทราบ และเข้าใจทั่วถึง
การเปิดเผยข้อมูลการคลังต่อสาธารณชน È
v เอกสารงบประมาณประจำปีจะต้องครอบคลุมการดำเนินงานของรัฐในทุกด้าน
v ต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับรายรับ รายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ
v มีงบแสดงฐานะทางการคลังของรัฐในภาพรวม
v ต้องแสดงข้อมูลทางการคลังของปีที่ผ่านมา 2 ปี และแผนการคลัง รวม 5 ปี
v ต้องจัดทำรายงานเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางการเงินการคลัง การยกเว้นลดหย่อนภาษี
v ให้ใช้มาตรการทางการคลังเป็นสิ่งจูงใจ
v ต้องรายงานแสดงภาระผูกพันหนี้สิน ทรัพย์สินขององค์กรภาครัฐ
v ต้องจัดทำรายงานและเผยแพร่ข้อมูลภายใต้เงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายกำหนด
v ต้องแจ้งกำหนดการรายงานให้สาธารณชนทราบล่วงหน้า
การมีระบบงบประมาณแบบเปิด È
กำหนดนโยบายการคลังของรัฐ
v ระบุวัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายระยะยาว
v จำแนกรายจ่ายเป็นภาระผูกพัน กับที่ริเริ่มขึ้น ใหม่ออกจากกัน
v ระบุประเด็นที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง และส่งผล กระทบต่อระบบเศรษฐกิจการคลังของรัฐบาล ทั้งด้านรายได้และรายจ่าย
ประมาณการรายได้ รายจ่าย ของรัฐ
v แสดงรายละเอียดที่เพียงพอ เพื่อการวิเคราะห์ ตรวจสอบ มีความชัดเจนโปร่งใส และเปรียบเทียบกับนานาประเทศได้
v แสดงแหล่งที่มาของรายได้ และรายรับ (รวมเงินกู้) รายจ่าย
v แสดงวงเงินงบประมาณ จำแนกตามวัตถุประสงค์ เป้าหมาย แผนงานและกิจกรรมตัวชี้วัดผลสำเร็จ
v แสดงดุลงบประมาณ ดุลเงินสด และดุลบัญชีเดินสะพัด แยกจากกัน
v ระบุวิธีการจัดทำบัญชีเกณฑ์สิทธิ หรือเกณฑ์พึงรับพึง จ่ายที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล
ควบคุมและกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินงบประมาณ
v ระบบบัญชีต้องครอบคลุม สอดคล้องกับโครงสร้างระบบงบประมาณ
v การจัดซื้อ จัดจ้าง ต้องดำเนินตามแบบแผนมาตรฐาน
v ระบบการตรวจสอบภายในที่เชื่อถือได้ และปรับปรุงระบบการตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพ
การรายงาน ตรวจสอบและประเมินผล
v ต้องครอบคลุมและสอดคล้องกับโครงสร้างและระบบงบประมาณ
v มีการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริงกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนงบประมาณ
v ต้องมีรายงานให้องค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ และสาธารณชนได้ทราบอย่างเป็นระบบ
การมีระบบการตรวจสอบองค์กรอิสระภายนอก Ä
v ต้องได้รับการแต่งตั้งจากสถาบันนิติบัญญัติ
v ต้องมีความเป็นอิสระ
v ต้องครอบคลุมประเด็นนโยบายการคลังงบประมาณ
กรณีศึกษาÈ
บรรทัดฐาน
งบยุงลาย
v ข้อเท็จจริง
สภาผู้แทนฯ พิจารณาอนุมัติให้ผ่านงบ ดำเนินการกำจัดยุงลาย เสนอโดยกรมพัฒนาชุมชน ซึ่งไม่มีรายละเอียดประกอบการพิจารณา ทั้งในเรื่องวิธีการดำเนินการ การใช้จ่ายเงิน เพียงตั้งไว้ลอย ๆ ว่า เพื่อกำจัดยุงลาย
สรุปความเห็น
การพิจารณาบรรทัดฐาน 3 ระดับ
v ระดับสูง: หลักธรรมาภิบาล ความชอบธรรม
Ø ประชาชนมิได้เสนอ
Ø ขาดการพิจารณากลั่นกรอง
v ระดับกลาง: วินัยทางการคลัง
Ø ไม่มีดุลยภาพ
Ø ไม่คำนึงหลักรับผิดชอบ
Ø ไม่โปร่งใส
v ระดับล่าง: หลักปฏิบัติถูกต้อง
Ø หน่วยงานขาดความรอบรู้
Ø ขาดความเข้าใจในวัสดุที่ใช้
Ø ขาดมาตรฐานการคลัง
องค์ประกอบ 4บรรทัดฐานทางการคลังว่าด้วยหน้าที่และรายจ่ายของรัฐ
Ø รายได้ รายจ่าย
Ø งบประมาณ
Ø การเงิน การบัญชี
Ø การรายงาน การตรวจสอบ
Ø นโยบายการคลัง
Ø ความสัมพันธ์ทางการคลังระหว่างรัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
การปรับปรุงระบบงบประมาณเพื่อให้มีบรรทัดฐานทางการคลัง È
v จัดตั้งคณะกรรมการ ตัวแทนสาธารณชนเพื่อติดตามการตั้งโครงการต่าง ๆ
v กำหนดหลักเกณฑ์ หรือ มาตรฐานการพิจารณางบประมาณ
v แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน และมีความเป็นกลาง
v ควบคุมและตรวจสอบความเข้าใจและการปฏิบัติตามบรรทัดฐาน
หน้าที่ของรัฐในการจัดบริการสาธารณะ È
v ดูแลความปลอดภัย
v คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม
v ผลิตสินค้าและบริการเพื่อสนองความต้องการของสมาชิกกลุ่ม
v เลือกจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้ได้ประโยชน์สูงสุดเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์
v จัดเก็บภาษี
แนวคิดของ Wick Sell È
v หน้าที่และรายจ่ายของรัฐต้องมาจากการออกเสียงลงคะแนน (vote)
v การลงคะแนนต้องทำ 2 ครั้ง
v ครั้งแรกเพื่อเลือกตัวแทนของสังคม
v ครั้งที่สอง เพื่อให้มีการจัดกิจกรรม
v ผลการลงคะแนน ทำให้ทราบความต้องการของสมาชิกในสังคมว่าต้องการอะไร
ข้อสังเกตการทำตามแนวคิดของ Wick Sell È
Ø เป็นการดำเนินการตามหลักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม
Ø เป็นการใช้วิธีการของประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน
Ø ไม่ได้คำนึงถึงอำนาจต่อรองของสังคมซึ่งมีไม่เท่ากัน
Ø ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายและเวลาเพื่อให้ได้มาซึ่ง Majority Vote จะสูงมาก เหมาะกับชุมชนขนาดเล็กเท่านั้น
แนวคิดของรัฐชาติ È
Ø รัฐเป็นตัวตนที่แยกออกจากสมาชิกของรัฐ
Ø มีเจตจำนงและความต้องการเป็นของตนเอง
Ø ผลประโยชน์ของรัฐที่ถูกอ้างว่าเป็นความต้องการโดยรวมของสมาชิกของรัฐ
Ø รัฐทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าหรือบริการที่เป็นสาธารณะ ที่แตกต่างจากสินค้าหรือบริการเอกชน
คุณสมบัติของสินค้าสาธารณะ พิจารณาจาก È
Ø ลักษณะที่แบ่งแยกไม่ได้ Non-excludability
Ø ลักษณะที่ไม่แข่งขัน Non- rival
หน้าที่ของรัฐในการสนับสนุนเป้าหมายทางเศรษฐกิจ È
Ø เป็นหน้าที่ที่เกิดขึ้นในภายหลังหรือเรียกว่ายุค Neo classic
Ø ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี
- มีระบบตลาดที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบเศรษฐกิจโดยรวมมีเสถียรภาพ
- มีความเจริญเติบโตในระดับที่เหมาะสม
Ø ควบคุมและกำกับดูแลให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- มีการแข่งขันอย่างยุติธรรม
- ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบ
- มีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
Ø การควบคุมดูแลในลักษณะการเป็น Regulatory Body
- กำหนดกฎเกณฑ์การดำเนินการที่อยู่ในกรอบ
- ไม่เกิดการผูกขาด
- ไม่ให้เกิดการกำหนดราคาที่ไม่เป็นธรรม
Ø หน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
- เพื่อตอบสนองและรองรับปัญหาที่เกิดจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
Ø การรักษาเสถียรภาพ
- รัฐเข้าไปรักษาระดับของเศรษฐกิจไม่ให้เกิดความผันผวนมากกว่าที่ควรจะเป็น
หลักการบริหารรายจ่ายภาครัฐ
หลักทฤษฏีงบประมาณ Ä
Ø ทฤษฏีเน้นการวางแผน
Ø ทฤษฏีเน้นการบริหาร
Ø ทฤษฏีเน้นการควบคุมและต่อรองทางการเมือง
หลักวินัยทางการคลัง Ä
เน้นการสร้างกลไกเพื่อสามารถรักษาวินัยทางการคลัง
หลักการจัดสรรงบประมาณ Ä
พิจารณาลำดับความสำคัญของการใช้จ่าย
รายได้ภาครัฐ
v เป็นเครื่องมือการบริหารเศรษฐกิจมหภาค
v กระบวนการเพื่อการใช้จ่ายบริการสาธารณะ
v แหล่งของรายได้
Ø ภาษี และมิใช่ภาษี
Ø ภาษีได้แก่ ภาษีรายได้บุคคล ภาษีรายได้นิติบุคคล
Ø มิใช่ภาษี ได้แก่ ค่าธรรมเนียม สัมปทาน ค่าปรับ ใบอนุญาต
หลักการจัดเก็บภาษีที่ดี
v หลักการทำรายได้
v หลักการยอมรับของประชาชน
v หลักความเป็นธรรม
v หลักความเป็นกลาง
v หลักประสิทธิภาพในการจัดเก็บ
หลักการทำรายได้ È
v ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
v ภาษีเงินได้นิติบุคคล
v ภาษีการค้าหรือ VAT
v ภาษีสรรพสามิต
v ภาษีทรัพย์สิน
หลักการยอมรับของประชาชน(ผู้เสีย) Ä
v ผ่านสถาบันประชาธิปไตย เช่น ผู้แทน ส.ส. ส.ว.
v ยึดหลักความเป็นธรรม ในการช่วยแบกรับภาษีอย่างเสมอภาค
หลักความเป็นธรรม Ä
v Ability
v คนมีความสามารถมาก เสียมากกว่าคนมีความสามารถน้อย
v การแจกแจงกลุ่มคนในสังคม และภาระของภาษี
หลักความเป็นกลาง Ä
v การเก็บภาษีต้องไม่ก่อให้เกิด Market Distortion
v ในแต่ละภาคส่วน ต้องไม่ได้รับผลกระทบ และเสียเปรียบ
หลักความเป็นกลาง Ä
v การเก็บภาษีต้องไม่ก่อให้เกิด Market Distortion
v ในแต่ละภาคส่วน ต้องไม่ได้รับผลกระทบ และเสียเปรียบ
หลักประสิทธิภาพในการจัดเก็บ Ä
v ต้นทุนการจัดเก็บต้องน้อยที่สุด
v จัดเก็บสม่ำเสมอ
v การประมาณการภาษีล่วงหน้า
v การเสียภาษีกระทำได้ง่าย
v การจัดการเก็บมีความเป็นไปได้และมีประสิทธิภาพ
กระบวนการทางการเมืองในการกำหนดนโยบายภาษีอากร ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ การกู้เงิน เพื่อใช้ในการจัดบริการสาธารณะ
v Participatory democracy Wicksell หลักความเต็มใจ Willingness
v Representative Democracyvote right
ปรากฏการณ์ต่อต้านการเสียภาษี (tax revolt) Ä
v กรณีความไม่พอใจที่คนกลุ่มน้อยเป็นผู้เสียภาษีรายใหญ่
v กรณีรัฐบาลบริหารรายจ่ายผิดพลาด เช่นการบริหารหนี้มากเกินไป
v กรณีรัฐบาลบริหารรายได้ผิดพลาด เช่นการประเมินภาษี
การกำหนด”ราคา” บริการสาธารณะ
• เงื่อนไขคือ บริการนั้นต้องมีทางเลือกแก่ประชาชน
• ไม่มีการผูกขาดการผลิตบริการ
• ไม่มีการก่อเงื่อนไขการผูกขาด
• การกำหนดราคาใช้หลักการ marginal cost price
หลักว่าด้วยการกู้เงินและการลงทุนภาครัฐ Ä
• ลงทุนพัฒนาศักยภาพการผลิตให้มีคุณภาพและปริมาณเพียงพอ
• การกู้เงินเพื่อทำโครงการใหญ่ ๆ ต้องไม่เพิ่มภาษีให้แก่ประชาชนในอนาคตมากเกินพอดี