มุมมองการบริหารเชิงพฤติกรรม
มุมองแบบสมัยเดิมมองที่โครงสร้าง กฎระเบียบต่าง ๆ ขององค์การ แต่สำหรับมุมมองการบริหารเชิงพฤติกรรม มองโครงสร้าง กฎระเบียบต่าง ๆขององค์การเป็นเพียงส่วนหนึ่งขององค์การ และมองว่าองค์ประกอบที่สำคัญของการบริหารคือ คนในองค์กร
แนวคิดมุมมองเชิงพฤติกรรม แบ่งออกเป็นแนวคิด 2 สำนัก คือ
1. แนวคิดสำนักมนุษยสัมพันธ์ เป็นการอาศัยโครงสร้างและกฎเกณฑ์การบริหารเพื่อควบคุมให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนด โดยใช้หลักเหตุผล และผู้บังคับบัญชาที่มีสมรรถภาพ สามารถเร่งรัดงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา โดยผูกมัดน้ำใจของผู้ใต้บังคับบัญชา
2. แนวคิดสำนักมนุษยนิยม “คนแสวงหาความพึงพอใจที่ปฎิบัติงานเต็มตามศักยภาพที่มีหลักการ
-คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
-มนุษย์สามารถจะพัฒนาตัวเองเพื่อความสมบูรณ์ในตัวเอง
-ประโยชน์ต่อต่อองค์การได้รับคือประโยชน์ของสมาชิกหรือคนในองค์กร
-คนเป็นผู้กำหนดนโยบายและควบคุมนโยบาย
-การเปลี่ยนแปลงขององค์การมาจากการระดมความคิดของทุกฝ่าย
ปัจจัย
-ค่านิยม ทัศนคติ บุคลิกภาพ การมอง การเรียนรู้ การจูงใจ
ปัจจัยกลุ่ม
-โครงสร้างกลุ่ม เป้าหมายเฉพาะกลุ่ม การสื่อสารภายในกล่ม
สรุป
มุมมองการบริหารเชิงพฤติกรรมให้ความสำคัญกับคนและกลุ่ม โดยเสนอให้หลักการบริหารต้องมีความสอดคล้องกับปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้การปฎิบัติงานในองค์การเกิดประสิทธิภาพนำมาใช้
มุมมองการบริหารเชิงปริมาณ
-นำมาใช้แก้ปัญหาที่มีความซับซ้อนขององค์การโดยวิธการหาข้อมูลที่เป้นตัวเลขออกมาใช้ในการตัดสินใจกระบวนการ
เป็นการวิเคราะห์ปัญหา การวางรูปแบบปัญหา การสร้างแบบจำลอง การวิเคราะห์แบบจำลอง การดำเนินการโดยใช้โมเดลทางวิทยาศาสตร์ การวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตเพื่อคาดการณ์ในอนาคต
จุดแข็ง
- เน้นประสิทธิภาพในการตัดสินใจในสถานการณ์จำลอง
- จัดเตรียมแนวทางที่เป็นระบบ
- บริหารงานโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยความรู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับความซับซ้อนของปัญหา
- ทุนไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่น
ข้อจำกัด
-ไม่เหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องมีการตัดสินใจหลายสถานการณ์ เนื่องจากการตัดสินใจการบริหารจัดการเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจและมีลักษณะเฉพาะ
-อาจไม่สะท้องให้เห็นสภาพเป็นจริงของสถานการณ์
-มีต้นทุนสูง
มุมมองการบริหารเชิงระบบ
-ส่วนต่าง ๆ ที่ขึ้นอยู่ต่อกันจำนวนหนึ่ง ซึ่งเมื่อรวมเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้วก็จะทำหน้าที่บางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จผลตามที่ต้องการระบบปิด
เป็นระบบที่เน้นการมีกิจกรรมภายในที่เกี่ยวข้องกับคนเป็นหลัก แต่ให้ความสนใจหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมภายนอกน้อยมาก หรือไม่ให้ความสนใจเลย ระบบเปิดเน้นการมีปฎิกิริยาสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมภายนอกระบบ
สรุป
องค์การเป็นระบบ ๆ หนึ่งที่ตั้งขึ้นและดำเนินการอยู่ในสภาพแวดล้อมใดแวดล้อมหนึ่ง และในทุกขณะของระบบ องค์การก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบใหญ่ จะมีความเกี่ยวกับอยู่เสมอ การกระทำใด ๆ โดยองค์การก็ย่อมสามารถส่งผลกระทบต่อส่วนที่อยู่ภายนอกองค์การหรือระบบใหญ่อยู่เสมอ ผู้บริหารต้องเข้าใจถึงความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันระหว่างองค์กรกับสภาพแวดล้อมภายนอก
มุมมองเชิงสถานการณ์
การตอบสนองของผู้บริหารจะขึ้นอยู่กับปัจจัยทางสถานการณ์
ปัจจัย
- สภาพแวดล้อมที่ไม่คงที่ มีอัตราการเปลี่ยนแปลงและความสลับซับซ้อน
-หน่วยธุรกิจจะเป็นที่ตำแหน่งที่ดีกว่าสำนักงานใหญ่ในการสร้างกลยุทธ
-ความเชียวชาญ สามารถสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน
-นำเสนอผู้ตรวจสอบ เพื่อ การควบคุมนี้เข้มงวด ปกป้องผู้บริโภคและบริษัท
-ต้องคงผู้นำ แต่ไม่ต้องการคงสภาพเดิม
แนวคิด
-สถานการณ์ต่าง ๆ มีอิทธิผลต่อกลยุทธ์โครงสร้าง กระบวนการซึ่งมีผลต่อการปฏิบัติงาน
-ผู้บริหารควรจะปรับตัวขององค์การให้สอดคล้องกับสถานการณ์
สิ่งที่ให้ประโยชน์
-ระบุสถานการณ์หลักได้
-โต้แย้งกับหลักสากลของการจัดการ
ข้อจำกัด
-สถานการณ์วิกฤตทั้งหมดไม่สามารถระบุได้
-ทฤษฎีอาจไม่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับประเด็นปัญหาทั้งหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น